เสื้อขนสัตว์ต้องซักมือด้วยน้ำเย็น ไม่เช่นนั้นเนื้อผ้าจะหดจนเล็กกว่าขนาดจริงมาก

เสื้อขนสัตว์

มีกี่ครั้งแล้วที่คุณต้องยืนมองเสื้อสเวตเตอร์ขนสัตว์ (Wool) ตัวโปรด ที่ครั้งหนึ่งเคยพอดีตัวอย่างสวยงาม กลายสภาพไปเป็นเสื้อขนาดสำหรับเด็ก หลังจากการซักผ้าเพียงครั้งเดียว? นี่ไม่ใช่เรื่องโชคร้าย แต่เป็นผลลัพธ์ที่คาดเดาได้จากการดูแลเนื้อผ้าที่ละเอียดอ่อนนี้ผิดวิธี

ความจริงที่เจ็บปวดก็คือ: เสื้อขนสัตว์และน้ำร้อนคือศัตรูกันโดยสิ้นเชิง หากคุณโยนมันลงในเครื่องซักผ้าและตั้งโปรแกรมซักด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน คุณกำลังเร่งปฏิกิริยาที่เรียกว่า “การสักหลาด” (Felting) ซึ่งจะทำให้เสื้อของคุณหดตัวอย่างถาวรจนไม่สามารถแก้ไขได้

 

ทำไม “น้ำร้อน” ถึงทำลายเสื้อขนสัตว์?

 

เพื่อให้เข้าใจว่าทำไมเสื้อขนสัตว์ถึงหดตัว เราต้องเข้าใจโครงสร้างของมันก่อน

เส้นใยขนสัตว์ (Wool fiber) ไม่เหมือนกับเส้นใยฝ้าย (Cotton) โครงสร้างของมันคล้ายกับเส้นผมของมนุษย์มาก หากส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ คุณจะเห็นว่าเส้นใยขนสัตว์นั้นถูกปกคลุมไปด้วย “เกล็ด” (Scales) เล็กๆ ซ้อนทับกัน

ปัจจัยที่ทำให้เกิดหายนะมี 3 อย่าง:

  1. ความร้อน (Heat): เมื่อขนสัตว์สัมผัสกับน้ำร้อน เกล็ดเล็กๆ เหล่านี้จะ “เปิดออก”
  2. การเสียดสี (Agitation): การปั่นอย่างรุนแรงในเครื่องซักผ้า หรือแม้แต่การขยี้แรงๆ ด้วยมือ จะทำให้เกล็ดที่เปิดอยู่นั้นเข้าไป “ขัดกันและล็อกตัว” (Interlock)
  3. การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ (Sudden Temp Change): การย้ายจากน้ำร้อนไปน้ำเย็นจัดทันที (หรือกลับกัน) ก็ทำให้เส้นใยช็อกและหดตัวได้เช่นกัน

เมื่อเกล็ดเหล่านี้ล็อกตัวกันแล้ว มันจะไม่คลายตัวอีก เส้นใยจะดึงรั้งเข้าหากัน ทำให้ผ้าทั้งผืนหนาขึ้น แน่นขึ้น และที่สำคัญคือ หดเล็กลงอย่างถาวร นี่คือเหตุผลที่เสื้อขนสัตว์ตัวโปรดของคุณอาจหดลงไป 1-2 ไซส์ หรือมากกว่านั้น จนไม่สามารถสวมใส่ได้อีก

 

วิธีซักเสื้อขนสัตว์ที่ถูกต้อง: ป้องกันก่อนจะสาย

 

การดูแลเสื้อขนสัตว์ต้องใช้ความอ่อนโยนและความใส่ใจ แต่ก็ไม่ยากเกินไป กฎเหล็กมีเพียงข้อเดียวคือ: หลีกเลี่ยงความร้อนและการเสียดสีรุนแรง

ขั้นตอนที่ถูกต้องในการซักมือ (Hand-Wash):

  1. เตรียมน้ำ: ใช้น้ำเย็น หรือน้ำอุณหภูมิห้องเท่านั้น (ห้ามใช้น้ำอุ่นหรือน้ำร้อนเด็ดขาด) ผสมกับน้ำยาซักผ้าสำหรับขนสัตว์โดยเฉพาะ (Wool Wash) หรือแชมพูเด็กที่อ่อนโยน
  2. แช่และกด (Soak & Squeeze): กลับด้านในเสื้อออก แล้วจุ่มลงในน้ำ ค่อยๆ กด เสื้อเบาๆ ให้น้ำและน้ำยาซึมผ่านเนื้อผ้า ห้ามขยี้ ห้ามบิด หรือถูผ้าเด็ดขาด ปล่อยแช่ไว้ประมาณ 5-10 นาที
  3. ล้างน้ำเย็น: เทน้ำยาซักผ้าทิ้ง แล้วเติมน้ำเย็นสะอาด ล้างโดยการกดเบาๆ เช่นเดิม เปลี่ยนน้ำ 2-3 ครั้งจนกว่าจะหมดฟอง
  4. บีบน้ำออก (สำคัญมาก): ห้ามบิดเสื้อเพื่อไล่น้ำเด็ดขาด! ให้ยกเสื้อขึ้นมาแล้วบีบเบาๆ เพื่อไล่น้ำส่วนเกินออก
  5. ใช้ผ้าขนหนูช่วย: วางเสื้อราบบนผ้าขนหนูผืนใหญ่ที่แห้งสะอาด แล้วม้วนผ้าขนหนูไปพร้อมกับเสื้อ (เหมือนการม้วนซูชิ) กดเบาๆ เพื่อให้ผ้าขนหนูซับน้ำออกจากเสื้อขนสัตว์
  6. ตากให้แห้ง: ห้ามใช้เครื่องอบผ้าและห้ามแขวน น้ำหนักของน้ำที่อมอยู่จะทำให้เสื้อยืดและเสียทรง ให้วางเสื้อ “ตากราบ” (Dry Flat) บนตะแกรงตากผ้า หรือบนผ้าขนหนูแห้งผืนใหม่ จัดทรงเสื้อให้เข้ารูปเดิมขณะที่ยังชื้น และปล่อยให้แห้งในที่ที่มีอากาศถ่ายเท ห่างจากแสงแดดจัดและความร้อนโดยตรง
ผ้าขนสัตว์

ลิ้งค์หลัก ร้านซักผ้า

Redirect: สะดวกซัก