เสื้อเชิ้ตใหม่ ๆ หลายคนเคยเจอปัญหาหลังจากซักและอบแล้ว เดินออกจากเครื่องอบกลับมาเจอเสื้อติดรอยยับ ไม่ว่าจะรีดยังไงก็ยังมีรอยฝังแน่นอยู่ ทำให้เสียเวลาและดูไม่เรียบร้อย เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ปัญหาด้านความสวยงาม แต่มีพื้นฐานจากวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับเส้นใยผ้าและลักษณะของกระบวนการอบที่ถ้าทิ้งไว้นานเกินไป รอยยับจะตกค้างจนยากที่จะออก บทความนี้จะอธิบายสาเหตุ ผลกระทบ วิธีแก้ไข วิธีป้องกัน และปัจจัยที่ควรคำนึงในการซักอบเสื้อเชิ้ต เพื่อให้เสื้อเรียบสวยอย่างที่ควรจะเป็น
สาเหตุที่รอยยับฝังแน่นเมื่ออบแล้วทิ้งไว้นาน
หลังจากเสื้อเชิ้ตถูกอบในเครื่องอบหรือเครื่องอบผ้า รอยยับมักมาในหลายสาเหตุร่วมกัน หนึ่งคืออุณหภูมิและแรงหมุนภายในถังอบที่ทำให้ผ้ายืดหด เส้นใยถูกบิดตัว ในขณะที่ความร้อนและการเคลื่อนที่ของผ้าภายในเครื่องจะช่วยให้ผ้าแห้ง แต่เมื่อหมดรอบอบแล้ว หากเสื้อยังคงอยู่ภายในเครื่องโดยไม่ได้เอาออกทันที รังสีความร้อนที่ตกค้างและแรงกดดันจากเสื้อตัวอื่นจะทำให้รอยยับเหล่านั้น “เซ็ตตัว” ลงในเนื้อผ้า
นอกจากนี้ ปัจจัยที่เกี่ยวข้องคือความชื้นที่ยังคงเหลืออยู่ในผ้า แม้จะผ่านรอบอบแล้วก็ยังมีน้ำในเนื้อผ้าหรือในตะเข็บหรือบริเวณที่หนาอยู่มาก เช่นปก แขน หรือกระเป๋า ถ้าทิ้งไว้นาน ความชื้นนั้นจะทำงานร่วมกับความร้อนตกค้าง ทำให้เส้นใยค่อย ๆ ปรับรูปร่างตามรอยยับและ “ฝัง” รอยไว้
พฤติกรรมทั่วไปที่มักถูกมองข้ามคือคนมักอบเสื้อต่อจากซักเสร็จ แล้วไปทำงานอื่น หรือลืมเสื้อไว้ในถังอบทั้งวัน หรืออบหลายชั่วโมงเกินจำเป็น ซึ่งรอยยับที่เริ่มก่อนจะถูก “เซ็ต” ลงไปในบาลานซ์ผ้า ทำให้แม้จะรีดหรือรีดไอน้ำก็ต้องออกแรงมากขึ้นหรือใช้เวลามากขึ้น
ผลกระทบเมื่อเสื้อเชิ้ตรีดไม่เรียบเพราะทิ้งอบไว้นาน
เป็นผลกระทบทั้งทางสายตาและทางการใช้งานเสื้อผ้าที่มักเกิดขึ้นก่อนอย่างชัดเจน เสื้อจะดูหมอง ขาดความเป็นระเบียบ และเสียบุคลิกภาพเมื่อต้องใส่ออกงานหรือพบปะผู้คน รอยยับที่ฝังแน่นจะทำให้การรีดต้องใช้แรงและเวลามากขึ้น ใช้เตารีดที่ร้อนจัดและแรงกดสูงซึ่งอาจทำให้เนื้อผ้าเงาหรือถูกทำลายได้
รอยยับที่ไม่ได้รีดออกดีสามารถเกิดการแตกของเส้นใยในบริเวณรอยยับ เช่น รอยยับที่แขนหรือบริเวณหลังกระดุม เมื่อนำไปรีดหลายครั้ง เส้นใยอาจบางลงและขาดได้ง่าย และหากเสื้อทำจากผ้าเนื้อบางหรือแพ้ง่าย เช่นฝ้ายบาง ผ้าลินินหรือผ้าผสม สิ่งเหล่านี้ยิ่งแย่
นอกจากนั้นการรีดบ่อยและใช้แรงมากอาจส่งผลให้สีผ้าเสื่อม หรือเคลือบหรือ finish ของเสื้อ (ถ้ามี) หลุดเร็วขึ้น ผ้าอาจเงาไม่เต็มที่ หรือเกิดจุดที่เหลืองจากความร้อนหรือสารรีด
จากมุมสุขภาพ ถ้าผ้าชื้นค้างในถังอบก่อนนำออก อาจมีกลิ่นอับหรือแม้แต่เชื้อราเล็กน้อย ซึ่งเมื่อรีด อาจปล่อยกลิ่นหรือก่อให้เกิดอาการแพ้ในบางคนได้
ประโยชน์ของการรีดทันทีและเก็บรีดดี
เมื่อรีดเสื้อทันทีหลังอบหรือผึ่งให้แห้งทันทีจะช่วยลดโอกาสที่รอยยับจะฝังแน่น เสื้อจะเรียบสวย ดูเป็นระเบียบ ใช้งานง่ายโดยไม่ต้องใช้แรงเยอะ เตารีดหรือไอน้ำลดน้อยลง ซึ่งช่วยลดการเสื่อมของเนื้อผ้า ลดการซีดจากความร้อน การรีดทันทีและเก็บรีดดีช่วยรักษารอยเย็บ กระดุม ปกแขนและคอให้คมอยู่เสมอ
นอกจากนี้ เสื้อที่รีดดีมักเก็บดีในตู้หรือแขวนอย่างมีระเบียบ เมื่อสวมใส่จะดูดีและมั่นใจมากกว่า เสื้อที่มีกระเป๋าล้า รอยยับหนักอาจทำให้ใส่ออกนอกบ้านแล้วรู้สึกไม่มั่นใจ
ข้อควรระวังเมื่อรีดและอบผ้า
แม้จะรีดทันทีเป็นสิ่งดี แต่ก็มีข้อควรระวังที่หลายคนมองข้าม เช่นการตั้งอุณหภูมิเตารีดสูงเกินไปสำหรับชนิดผ้า ซึ่งอาจเผาหรือเงา ผ้าที่มีลายสกรีนหรือพิมพ์อาจได้รับผลกระทบ หรือเคลือบผ้าที่อาจหลุดลอก
การใช้งานเครื่องอบผ้า (dryer) ที่มีโหมดความร้อนสูงสุดหรืออบนานเกินไป ทำให้ผ้าแห้งเร็วแต่ส่งผลให้เนื้อผ้าหดและรอยยับเกิดง่าย เหมือนกับการอบและทิ้งไว้ในเครื่องเป็นเวลานาน
ชนิดผ้าเป็นอีกตัวแปรสำคัญ ผ้าฝ้ายและผ้าลินินมักเกิดรอยยับได้ง่ายกว่าผ้าที่ผสมเส้นใยสังเคราะห์ และผ้าที่ทอแน่นอาจทนทานกว่าผ้าที่ทอหลวม
ต้องระวังการรีดหรือรีดไอน้ำโดยตรงบนรอยยับที่ฝังแน่น เพราะหากใช้แรงมากอาจทำให้ผ้าเผาหรือเกิดเงาในจุดที่รีด บางคนอาจใช้สเปรย์น้ำหรือไอน้ำช่วย แต่ถ้าใช้ไม่ถูกต้องอาจมีคราบน้ำหรือเงาที่ไม่สม่ำเสมอ
วิธีแก้ไขเมื่อรอยยับฝังแน่นแล้ว
หากเสื้อเชิ้ตของคุณถูกอบทิ้งไว้นานและรอยยับเริ่มฝังแน่น มีวิธีช่วยฟื้นฟูริ้วรอยเหล่านั้น:
เริ่มด้วยการใช้ไอน้ำ (steamer) เพราะไอน้ำสามารถช่วยผ่อนคลายเส้นใยที่ถูกบิดและรีดให้รอยยับค่อย ๆ คลาย ก่อนใช้งานเตารีด ให้แขวนเสื้อเชิ้ตไว้ให้ไอน้ำเข้าถึง หรือใช้ไอน้ำจากฝักบัวหรือต้มหม้อน้ำเพื่อใช้ไอน้ำผ่านผ้า
รีดในขณะที่ผ้าอาจยังมีความชื้นเล็กน้อย หลังจากอบเสร็จแล้วถ้าผ้าแห้งสนิทไปแล้ว ให้ใช้สเปรย์ฉีดน้ำเล็กน้อยที่ด้านในของผ้า จุดที่รอยยับมาก จากนั้นรีดอุณหภูมิต่ำถึงกลางตามคำแนะนำบนป้ายผ้า
ใช้โหมด “permanent press” หรือโหมด “wrinkle release / low heat / cool-down” ถ้าเครื่องอบผ้าหรือเครื่องซักผ้ามีโหมดเหล่านั้น เพราะจะช่วยลดแรงร้อนและแรงเสียดสี
หากมีรอยยับหนักที่ข้อมือ ปก หรือแขนเสื้อ อาจต้องรีดเฉพาะจุดโดยใช้ผ้ารองหรือซับในเพื่อปกป้องผิวผ้า และอย่ากดเตารีดค้างในจุดเดียวเกินเวลา
วิธีป้องกันไม่ให้เสื้อเชิ้ตรีดไม่เรียบตั้งแต่แรก
เพื่อไม่ให้ตกอยู่ในสถานการณ์ต้องแก้ไขยากตั้งแต่แรก ควรปฏิบัติวิธีเหล่านี้:
อย่าอบเสื้อเชิ้ตในเครื่องอบผ้าหรือซักแล้วปล่อยไว้ในเครื่องอบจนเย็นและกองก่อนนำออก รีบเอาออกเมื่อรอบอบหรือซักจบทันที แล้วแขวนขึ้นไม้แขวนหรือผึ่งลม
เลือกโหมดอบที่มี cool-down หรือหมุนแรงต่ำเพื่อลดแรงเสียดสีภายในผ้า เลือกความร้อนต่ำถึงปานกลาง โดยเฉพาะผ้าที่ระบุบนป้ายว่า “low heat” หรือ “permanent press”
อย่าใส่เสื้อเชิ้ตจำนวนมากในถังซักหรือถังอบในครั้งเดียว ให้มีช่องว่างให้ผ้าขยับตัว ไม่บีบอัดมาก และไม่ซักร่วมกับผ้าที่หนักมากเช่นผ้าขนหนู เพราะจะเพิ่มแรงกดและแรงดึง
รีดผ้าเมื่อเสื้อยังอุ่นเล็กน้อยไม่รอให้แห้งสนิทถ้าผ้าเนื้อหนาหรือชนิดที่ดูดซับน้ำได้ดี ก็สามารถใช้ไอน้ำช่วยก่อนรีด
เก็บเสื้อผ้าโดยไม่พับหรือแขวนทับ ๆ กันมาก แขวนบนไม้แขวนที่มีไหล่กว้าง และรักษาระยะห่างระหว่างเสื้อแต่ละตัวเพื่อไม่ให้เกิดรอยยับจากแรงกด
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องที่ส่งผลให้รอยยับฝังแน่นเร็วขึ้น
ชนิดผ้ามีผลใหญ่ ผ้าฝ้ายและลินินหรือเนื้อผ้าธรรมชาติที่ดูดซับน้ำได้ดีต้องระวังมากกว่าเนื้อผ้าผสมเส้นใยสังเคราะห์ซึ่งทนต่อรอยยับได้ดีกว่า
ระดับของความชื้นและอุณหภูมิภายในบ้านก็สำคัญ ถ้าห้องอับ ร้อน ชื้น รอยยับที่ฝังแน่นมักเกิดเร็วกว่าในที่เย็นลมถ่ายเท
การตั้งอุณหภูมิของเครื่องซัก /และเครื่องอบที่สูงเกิน เสียบเตารีดร้อนเกินไปล้วนแต่เป็นปัจจัยที่เร่งการฝังของรอยยับ
เวลาและการดูแลหลังการอบทันทีมีผลมาก ถ้าคนทิ้งเสื้อไว้หลายชั่วโมงก่อนรีด รอยยับจะตั้งตัวแน่นและยากจะคลาย
สรุปประเด็นสำคัญ
-
รอยยับจะฝังแน่นเมื่อเสื้อเชิ้ตถูกอบแล้วทิ้งไว้ในเครื่องอบนาน หรือกองไว้ก่อนจะแขวนหรือรีด เพราะความร้อนตกค้างและแรงกดของผ้ารอบตัว
-
ผลเสียรวมถึงเสื้อไม่เรียบ สีหมอง รีดยาก ใช้เวลามาก และอายุการใช้งานของผ้าลดลง
-
การป้องกันได้แก่เอาออกทันทีหลังอบ ซักอบด้วยโหมดเย็น-ต่ำ รีดขณะที่เสื้อนุ่ม มีความชื้นเล็กน้อย และเก็บเสื้อโดยไม่ทับกัน