คราบเหงื่อไม่ได้เกิดจากน้ำธรรมดา แต่มีส่วนผสมของ โปรตีน ไขมัน เกลือ และแร่ธาตุ เมื่อซึมเข้าไปในเส้นใยผ้าแล้วถูกปล่อยทิ้งไว้นาน จะเกิดปฏิกิริยากับอากาศและความร้อนจนกลายเป็น คราบเหลืองฝังแน่น หากนำไปซักทันทีโดยไม่ผ่านการแช่ น้ำซักและผงซักฟอกอาจไม่สามารถดึงคราบออกได้ทั้งหมด และคราบจะ “ตั้งตัว” แน่นขึ้น โดยเฉพาะบนเสื้อผ้าสีอ่อนหรือเสื้อเชิ้ตขาวที่สังเกตได้ชัด
คราบเหงื่อทำไมถึงกลายเป็นคราบเหลือง
เหงื่อของคนเรามีทั้ง โปรตีนและไขมัน ร่วมกับเกลือและสารอินทรีย์จากร่างกาย เมื่อสัมผัสกับสารระงับเหงื่อที่มีส่วนผสมของอะลูมิเนียม เกิดการจับตัวกับใยผ้าและออกซิไดซ์กลายเป็นสีเหลือง ยิ่งเจอความร้อนจากแดดหรือการอบผ้า คราบจะยิ่ง “สุก” และเกาะแน่นยากต่อการแก้ไข
คราบเหลืองนี้ต่างจากคราบสีตก เพราะเป็น คราบเคมีที่ก่อขึ้นบนเส้นใย การซักปกติไม่สามารถจัดการได้ง่าย จำเป็นต้องมีขั้นตอนพิเศษ เช่น การแช่ด้วยเอนไซม์ หรือการใช้สารฟอกออกซิเจนเพื่อสลายคราบ
ทำไมต้องแช่น้ำก่อนซัก
การแช่ผ้าที่มีคราบเหงื่อเป็นการ ทำให้คราบอ่อนตัวและหลุดจากเส้นใย ก่อนเข้ารอบซักจริง คราบเหงื่อจัดเป็นคราบโปรตีน ซึ่งหากใช้น้ำร้อนทันที โปรตีนจะจับตัวแน่นเหมือนไข่สุก ทำให้แก้ไขไม่ได้ การแช่ในน้ำเย็นหรือน้ำอุ่นต่ำจึงเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด
หากเติม ผงซักฟอกสูตรเอนไซม์ ลงไปในน้ำแช่ เอนไซม์โปรตีเอสและไลเปสจะช่วยย่อยโปรตีนและไขมัน ทำให้คราบ “หลวม” และพร้อมให้การซักรอบปกติยกออกได้ง่ายขึ้น ระยะเวลาแช่โดยทั่วไปอยู่ที่ 20–30 นาที สำหรับคราบหนักอาจต้องแช่นานกว่านั้น
วิธีซักให้ผ้ากลับมาขาวสะอาด
เมื่อแช่เสร็จควรบีบน้ำออกเบา ๆ แล้วเข้าสู่รอบซักด้วย ผงซักฟอกเข้มข้นสูตรเอนไซม์ หากเป็นเสื้อขาว สามารถเติม ออกซิเจนบลีช (Oxygen bleach) เพื่อสลายคราบที่ยังหลงเหลืออยู่ได้ดี โดยเฉพาะผ้าฝ้ายสีขาวที่ทนความร้อน สามารถใช้น้ำอุ่นในขั้นตอนซักได้ แต่ต้องทำหลังจากแช่คราบโปรตีนแล้วเท่านั้น
สำหรับผ้าสีหรือผ้าพิมพ์ลาย ควรใช้เพียงผงซักฟอกเอนไซม์ และเพิ่มรอบล้างหนึ่งครั้งเพื่อลดการย้อนเกาะของคราบที่ละลายออกมา การตั้งรอบปั่นหมาดแรงขึ้นก็ช่วยดึงน้ำคราบออกได้มาก
ข้อควรเลี่ยงในการซักคราบเหงื่อ
สิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งคือ การใช้น้ำร้อนตั้งแต่แรก เพราะจะทำให้คราบโปรตีนแข็งตัวจนติดแน่น อีกทั้งไม่ควรรีดหรืออบผ้าที่มีคราบเหลืองจาง ๆ ค้างอยู่ เพราะความร้อนจะยิ่งทำให้คราบนั้นคงตัวถาวร การขยี้แรง ๆ ก็ทำให้เส้นใยบานและเกิดขุย ซึ่งทำให้คราบกลับมาติดง่ายขึ้น
ปัจจัยที่ทำให้ซักแล้วคราบยังไม่หาย
บางครั้งแม้ทำตามขั้นตอนถูกต้องแล้ว แต่ผ้าก็ยังเหลือง สาเหตุอาจมาจาก น้ำกระด้าง ที่ลดประสิทธิภาพของผงซักฟอก หรือ เครื่องซักผ้าที่ไม่ได้ทำความสะอาด คราบสบู่และตะกอนสะสมในถังอาจย้อนกลับมาติดผ้าได้ ควรล้างถังซักเป็นประจำ และใช้ผลิตภัณฑ์เสริมที่ช่วยจับแร่ธาตุหรือละลายคราบ
วิธีแก้ไขเมื่อผ้าเหลืองแล้ว
หากเสื้อมีคราบเหลืองชัดเจน ให้แช่ด้วย ออกซิเจนบลีช ผสมน้ำอุ่นทิ้งไว้หลายชั่วโมงก่อนซักใหม่ การทำเช่นนี้ช่วยลดโทนเหลืองลงโดยไม่ทำร้ายเส้นใยเท่าการใช้น้ำยาฟอกคลอรีน สำหรับคราบที่เพิ่งเกิด สามารถป้ายผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าแบบเข้มข้นลงไปตรงจุดคราบก่อนแล้วจึงซัก จะช่วยป้องกันการสะสมเป็นคราบถาวรได้
สรุปสั้น ๆ
-
คราบเหงื่อคือคราบโปรตีนและไขมันที่ ต้องแช่ก่อนซัก เพื่อให้หลุดออกง่าย
-
ควรแช่ในน้ำเย็นหรือน้ำอุ่นต่ำ และเสริมเอนไซม์ช่วยย่อยคราบ
-
เสื้อขาวสามารถใช้ ออกซิเจนบลีช เพื่อคืนความสว่างได้
-
หลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อนหรือการอบผ้าที่มีคราบเหลือง