หลายคนคงเคยเจอปัญหา เสื้อเชิ้ตสีขาวที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ๆ แต่กลับดูหมองหรือเหลืองเร็วผิดปกติ ทั้งที่ใส่ไม่กี่ครั้งก็เริ่มไม่สดใสเหมือนเดิม สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการซักอย่างเดียว แต่จริง ๆ แล้ว แสงแดดแรงจัดคือศัตรูตัวฉกาจของเสื้อเชิ้ตสีขาว เพราะรังสี UV มีพลังทำลายเส้นใยผ้าอย่างเงียบ ๆ จนสีขาวที่เคยสดใสค่อย ๆ หม่นหมองและเหลืองถาวรในที่สุด
ทำไมเสื้อเชิ้ตสีขาวถึงดูหมองเร็ว
เสื้อผ้าสีขาวโดยเฉพาะ เสื้อเชิ้ตที่ทำจากผ้าฝ้ายหรือผ้าโพลีเอสเตอร์ผสม มักเสื่อมสภาพจากแสงแดดได้ง่ายกว่าสีอื่น ๆ เพราะไม่มีเม็ดสีช่วยดูดซับหรือสะท้อนรังสี UV เมื่อซักเสร็จแล้วนำไปตากแดดจัด ๆ เส้นใยผ้าจะ ถูกทำลายความแข็งแรงและความยืดหยุ่น ส่งผลให้เนื้อผ้าขาดความนุ่มนวล และสีขาวค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นโทนเหลืองหม่น
รังสี UV ตัวการทำลายใยผ้า
แสงแดดไม่ได้มีแค่ความร้อน แต่ยังมี รังสี UV ที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาออกซิเดชัน กับสารที่เคลือบใยผ้า ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี เส้นใยผ้าที่ควรจะใสสะอาดเริ่มเกิด การสะสมของเม็ดสีเหลืองเล็ก ๆ ที่ล้างออกยาก ยิ่งซักบ่อย ๆ และตากแดดแรง ๆ กระบวนการนี้ยิ่งเกิดเร็วขึ้น
การซักและการตากที่เร่งให้เหลืองไว
ไม่ใช่แค่แดดแรงเท่านั้น การซักด้วยน้ำยาซักผ้าที่มีสารฟอกขาวแรงเกินไป หรือการใช้ผงซักฟอกในปริมาณมากเกินพอดี ก็เป็นอีกตัวการที่ทำให้ใยผ้าอ่อนแอ และเมื่อไปเจอแดดแรงก็เสื่อมสภาพเร็วขึ้นไปอีก เสื้อเชิ้ตสีขาวเลย เหลืองง่ายจนดูเก่าแม้จะซื้อมายังไม่นาน
วิธีป้องกันไม่ให้เสื้อเชิ้ตสีขาวหมองเร็ว
-
หลีกเลี่ยงการตากแดดจัดโดยตรง ควรเลือกตากในที่ร่มหรือแดดอ่อน ๆ ที่มีลมโกรกแทน
-
กลับตะเข็บเสื้อก่อนตาก เพื่อลดการสัมผัสแสงแดดตรง ๆ กับตัวผ้า
-
เลือกใช้น้ำยาซักผ้าที่อ่อนโยน และหลีกเลี่ยงการใช้สารฟอกขาวแรง ๆ เป็นประจำ
-
ซักทันทีหลังใส่ ไม่ควรปล่อยให้คราบเหงื่อหรือฝุ่นสะสม เพราะเป็นตัวเร่งให้ผ้าเหลืองเร็ว
-
เก็บรักษาในที่แห้งและไม่อับชื้น เพื่อป้องกันการสะสมของกลิ่นและคราบเหลือง
สรุป
การที่เสื้อเชิ้ตสีขาวดูหมองเร็วไม่ได้เกิดจากการซักเพียงอย่างเดียว แต่ การตากแดดแรงจัดคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ใยผ้าเสื่อมสภาพและเกิดคราบเหลืองสะสมถาวร หากอยากให้เสื้อเชิ้ตสีขาวอยู่กับเราได้นานขึ้น ควรใส่ใจทั้งวิธีซักและการตาก เพราะการป้องกันตั้งแต่ต้นคือวิธีที่ดีที่สุด